วันที่ 24 มกราคม 2556 ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางฐิติมา ฉายแสง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเรือตรีวิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมเยี่ยมชมการดำเนินงานในส่วนต่าง ๆ ของมูลนิธิฯ พร้อมกับลงพื้นที่ ศึกษาสภาพการก่อสร้างสะพานลอยสำหรับคนพิการ ซึ่งจะเป็นสะพานลอยแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่จะมีการติดตั้งลิฟท์สำหรับคนพิการ โดยมีนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยบาทหลวงพิชาญ ใจเสรี ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ และรองประธานมูลนิธิคุณพ่อเรย์ พร้อมคณะร่วมให้การต้อนรับ
นายประเสริฐ กล่าวว่า “การอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ หรือประชาชนทุกคนให้ได้ความสะดวก ปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกันถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การก่อสร้างสะพานลอยสำหรับคนพิการแห่งนี้ถือเป็นการปรับสภาพแวดล้อม อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และรวมถึงการบริการแก่ประชาชน ซึ่งการคมนาคมได้เล็งเห็นความสำคัญตรงส่วนนี้เป็นอย่างมาก และมีความยินดีที่จะสนับสนุนการก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมูลนิธิฯ เป็นองค์กรการกุศลที่มีการพัฒนางานด้านคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา ศูนย์จัดหางานคนพิการพระมหาไถ่ ศูนย์พัฒนาการเด็กพิเศษฯลฯ ซึ่งมีคนพิการกว่า 300 คน ที่เข้ามาใช้บริการอยู่เป็นประจำ และต้องเดินทางเพื่อไปประกอบอาชีพตามพื้นที่ต่างๆ โดยจะมีการข้ามถนนในบริเวณหน้าศูนย์ฯ อยู่เป็นประจำ ซึ่งการจัดสร้างสะพานลอยในบริเวณดังกล่าว จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนพิการและคนที่ต้องการข้ามถนนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างเชื่อมั่นให้กับประชาชนถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และใช้เป็นสาธารณประโยชน์ของชาวเมืองพัทยาและนักท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต
สำหรับการก่อสร้างสะพานลอยแห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นบริเวณหน้าศูนย์คณะพระมหาไถ่ ถนนสุขุมวิท กม. 145 ซึ่งจะเป็นสะพานลอยที่มีการติดตั้งสิฟท์สำหรับคนพิการที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ สามารถใช้งานได้จริงซึ่งนับว่าเป็นสะพานลอยแห่งแรกของประเทศ และคาดว่าจะเป็นสะพานลอยแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนสำหรับคนพิการที่จะสามารถใช้งานได้จริง สะดวก ปลอดภัย โดยจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งจะงบประมาณดังกล่าวจะบรรจุอยู่ในแผนงบประมาณของกรมทางหลวงชนบทในปี พ.ศ.2557 และหลังจากดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วจะยกให้กับหน่วยงานท้องถิ่น คือเมืองพัทยาไปผู้ดูและต่อไป
นอกจากนั้นนางฐิติมา กล่าวในฐานะผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ดูแลการดำเนินตามนโยบาย "สะดวก ปลอดภัย คมนาคมยุคใหม่ ใส่ใจคนพิการ" เน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญคือกระทรวงคมนาคมจะทำงานร่วมกับคนพิการ องค์กรคนพิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ สามารถตอบสนองผู้ใช้บริการได้อย่างแท้จริงดังปรากฏให้เห็นอยู่ตามสื่อต่างๆ อย่างเข้มข้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่ได้มีการตอกย้ำในเรื่องการคมนาคม ที่ขณะนี้ได้มีการนำร่อง 6 หน่วยงานหลัก คือการท่าเรือสาทร กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ปรับสภาพแวดล้อมเพื่อให้เอื้อต่อการเดินทางของคนพิการในทุกมิติ โดยจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในมีนาคม 2556 นี้
พลเอกพฤณท์ กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างสะพานลอยแห่งนี้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้พิการและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากเนื่องจากในบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชุมชนซึ่งมาประชาชนได้สัญจรไปมาอยู่เป็นประจำซึ่งรวมถึงคนพิการด้วย
ด้านเรือตรีวิโรจน์ กล่าวว่า “การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมาการท่าเรือแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญรับคนพิการเข้าทำงาน เพื่อให้เขาได้มีการอาชีพที่เหมาะสมที่ผ่านมาคนพิการได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขามีกำลังและศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศชาติได้ไม่แพ้กัน”